พาลิงน้อยตะลุยอาณาจักรโมเดลยักษ์ Massive Toy & the M Cafe

วันนี้มนุษย์แม่ตัวเท่ามดแต่แรงมากว่าช้าง จะแนะนำร้านใกล้บ้าน อยู่ในซอยพุทธบูชา 36  จริงๆ ขับรถผ่านเห็นกำลังสร้างมาซักพักใหญ่ แม่ก็สงสัยว่าเค้าสร้างอะไร บ้านพักอาศัย หรือร้านอาหาร ถ้าร้านอาหารแม่มิพลาดเด็ดขาด โดยส่วนตัวแม่ชอบการตกแต่งร้านเป็นการส่วนตัว สัปดาห์นี้เราจะไปไปตลาดคลองบางมด เลยมีโอกาสขับผ่านเห็นร้านเปิดแล้ว แม่ก็ออกคำสั่งบอกคุณพ่อว่าเปิด google ด่วน ร้านอะไร 555  หลังจากคุณพ่อปฏิบัติตามคำสั่งแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขากลับจากตลาดเราแวะทันทีคะ เพื่อลูกลิงของเรา ซุปเปอร์ฮีโร่ประจำบ้าน

Massive Toy & the M Cafe นั่นอยู่ริมถนนในซอยพุทธบูชา 36 จากปากซอยเลยร้านเจ้เล้งมานิดเดียว ร้านมีที่จอดรถสบายเลยคะ 

ด้านหน้ามีเลี้ยงปลาคราฟด้วย (ที่บ้านเราเลี้ยง) พ่อลูกเลยมีความสนใจไปยืนดูกันอย่างเพลิดเพลิน เข้ามาในส่วนของ Cafe ที่นี่มีขนมเค้ก เครื่องดื่ม หลากหลายชนิดนะคะ แล้วแต่ชื่นชอบเลย เรากลับมาจากตลาดท้องก็ไม่ค่อยจะสามารถรับอะไรเพิ่มได้แล้ว ลิงน้อยขอเฟร้นฟราย กะ ฮันนี่โทสไอศรีมช็อกโกแลต

 วิ่งขึ้นวิ่งลงจนไอติมของแม่ละลายเลย

ร้านมีสองชั้น ในส่วน model นั้น มีทั้งชั้นหนึ่ง และชั้นสอง 

สอบถามทางร้านบอกเปิดมาประมาณ 2 เดือนละ แม่แอบเห็นมีโมเดลที่ยังไม่ได้โชว์อีกเพียบ เอาจริงๆ เลยนะคะ มันตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็ก ๆ อย่างเด็กที่บ้านเรามาก และเหมาะกับคนที่ชื่นชอบโมเดล และเหล่าแฟนพันธ์แท้ซุปเปอร์ฮีโร ไม่ว่าจะเป็นของค่าย DC หรือ Marvel  หรือจะเป็น Blizzard ก็มา  งานฟิกเกอร์ Bearbrick ก็มี สาวกสตาร์วอลก็ไม่พลาด งานนี้ลูกลิงที่บ้านปลื้มปริ่มมากมาย วิ่งขึ้นวิ่งลงหลายรอบ ทำเอาแม่ถ่ายรูปไม่ได้เลย ก็เลยได้รูปมาแบบที่เห็นนี่แหละท่านผู้ชม ที่สำคัญลิงน้อยรู้จักแทบทุกชิ้น  สงสัยแม่ต้องพามาบ่อยๆ ละซิใกล้บ้านด้วย ได้ข่าวมาว่ามีโมเดลใหม่ๆ มาเรื่อยๆ ด้วยน๊า

มีหนังสือ Encycopedia ให้เด็กๆ อ่านด้วย ซึ่งเข้าทางของลิงน้อยที่บ้านมากค่ะ

ลิงน้อยมีความอยากให้ที่บ้านมีโต๊ะ  badmobile  บ้าง เหอะๆ

ไปรอบหน้าจะขอแก้ตัว ถ่ายรูปสวยๆ มาให้ชมกันให้ รอบนี้ตื่นเต้นกะของใหม่อยู่คร้า เอาจริงๆ คือร้านมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก แม่ละเสียดายอยากจะถ่าย แต่ต้องเดินตามคุณท่านนะซิค่ะ

แกงจืดหมูสับผักกาดขาว เมนูง่ายแสนง่าย by มนุษย์แม่ตัวเท่ามดแต่แรงมากกว่าช้าง

วันนี้มนุษย์แม่ตัวเท่ามดแต่แรงมากกว่าช้าง ขอแนะนำเมนูง่ายแสนง่าย วัตถุดิบไม่ต้องเยอะ นั่นคือ แกงจืดหมูสับผักกาดขาว เป็นเมนูช่วยประหยัดเวลาสำหรับมนุษย์แม่งานเยอะอย่างเราๆ ที่สำคัญมีประโยชน์สำหรับเด็กๆ ด้วย ฝึกกินผักกันไป ลิงน้อยที่บ้านไม่ค่อยชอบทานผักค่ะ แม่ก็ต้องพยายามสรรหาเมนูกันไป

ส่วนผสมแกงจืด

 1. ผักกาดขาว 1 ต้น

2. หมูสับ 250 กรัม

3. รากผักชี 1 ราก

4. กระเทียม 2 กลีบ

5. พริกไทยป่น 2 ช้อนชา

6. รสดี  1 ช้อนชา

7. ซีอิ้วขาวสูตรลดโซเดียม 40%  2 ช้อนโต๊ะ

8. เกลือป่น 1 ช้อนชา

9. ต้นหอมผักชี

วิธีทำ

1. นำเนื้อหมูสับมา ใส่พริกไทย 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ผักชีหั่นละเอียด คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 10 นาที

2. นำผักกาดล้างให้สะอาดที่ละใบ แล้วหั่น ขนาดพอคำ

3. ล้างต้นหอมผักชี หั่น ไว้สำหรับโรยตอนท้ายสุด

4. เตรียมใส่น้ำตั้งไฟ พอเดือดใส่กระเทียมและรากผักชีที่โขลกแล้ว เกลือป่นและผงรสดีที่เหลือลงไป

5. พอน้ำเดือดอีกครั้งใส่เนื้อหมูปั้นเป็นก้อนกลมๆ ลงไป พอหมูเริ่มสุก ใส่ผักกาดขาวลง

6. ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว ชิมรสตามชอบ พอสุกปิดไฟโรยต้นหอมผักชี

แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยตักใส่ถ้วยให้ลิงน้อยทานกับข้าว ซดน้ำร้อนๆ ได้เลยจ้า

มินิมูร่าห์ฟาร์ม พาลูกเที่ยวฟาร์ม สัมผัสธรรมชาติใกล้กรุงเทพ

ในวันนี้ มนุษย์แม่ตัวเท่ามดแต่แรงมากกว่าช้าง จะพาไปแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว มินิมูร่าห์ฟาร์ม สถานที่ท่องเที่ยว อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ใกล้ๆ กรุงเทพนี่เอง

มินิมูร่าห์ฟาร์ม ฟาร์มควายนมสายพันธุ์มูร่าห์ บรรยากาศฟาร์มในแบบชนบท เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เหมาะกับครอบครัวพาเด็กๆ มาสัมผัสธรรมชาติเป็นอย่างมาก และที่สำคัญมีกิจกรรม Work Shop ให้เด็กๆ ได้สนุกสนาน อย่างเช่น การทำพิซซ่า ไอศกรีม ให้อาหารสัตว์ ที่มีทั้งควายมูร่าห์ กระต่าย แพะ หมู เป็ด ปลาต่างๆ มีแปลงปลูกผัก มีสาธิตการดำนา ฯลฯ

เรามาถึงฟาร์มช่วง 10 โมงเช้า เป็นเวลาฟาร์มเปิดพอดี มีลานจอดรถอยู่ด้านหน้า เดินเข้าไปกันเลย ไม่เสียเงินค่าเข้านะคะ โดยทางฟาร์มจะจำหน่ายเป็นคูปอง ใบละ 30 บาท ถ้าซื้อ 4 ใบ ราคา 100 บาท
 ส่วนกิจกรรม มีหลายเรทราคา เราซื้อแบบทำกิจกรรม 2 อย่าง 490 บาท พร้อมคูปองให้อาหารสัตว์ 3 ใบ

 ในส่วนบรรยากาศ (แบบตามความรู้สึก) ในตอนแรกที่ขับรถมาจากวัดหลวงพ่อโสธร (ครอบครัวเราไปทำบุญไหว้พระกันก่อน) เส้นทางดูชนบท ไกลๆ เราก็ไม่เคยมากัน ก็ลุ้นๆ ว่าสถานที่จะเป็นยังไง พอมาถึง บรรยากาศ เป็นธรรมชาติมาก ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ สระน้ำ คือมันดูสมบรูณ์ กับคำว่าฟาร์ม เหมาะแก่การเรียนรู้ของเด็กๆ อย่างมาก ครอบครัวเราชอบมากค่ะ นอกจากมีสัตว์ให้เด็กๆ ได้ดู ได้ให้อาหารแล้ว ยังมีกิจกรรมซึ่งเด็กๆ ชอบมาก

กระต่ายน่ารักมากมาย แม่ลูกชอบมาก

กิจกรรมที่เลือกทำคือ การทำไอศรีม นมเป็นนมจาก มูร่าห์นะคะ ลิงน้อยของเราเลือกที่จะใส่ช็อกโกแลตเพิ่ม (เพิ่มเงิน 30 บาท) กิจกรรมนี้มีเป็นรอบๆ เราเลือกทำรอบ 11.00 น. ลิงน้อยของเราแฮปปี้มาก

กิจกรรมต่อมาคือ การทำพิซซ่า อันนี้สนุกสุด กว่าจะทำแป้งให้บางเฉียบได้ เล่นเอาลิงเหงื่อตกกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ มินิมูร่าห์ฟาร์ม ยังมีอาหารอร่อย ให้ทานด้วยนะคะ สืบเนื่องจาก work shop ทำพิซซ่า เราเลยสั่งสปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า และน้ำราชเบอรี่โซดา กับอิตาเลี่ยนบูลโซดา
ทางเราขอแนะนำ พิซซ่า คือแบบ อร่อยมากกก แป้งบางกรอบ อบเตาถ่าน ฝีมือลูกด้วย อร่อยสุดๆ ไปเลย

ทานกันเสร็จ เราก็ให้อาหารกระต่ายอีกรอบ แล้วก็ถึงเวลากลับเพราะเราต้องพาเด็กไปช้อปของเล่นที่ตลาดคลองสวน 100 ปี กันต่อ

ฝากสถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ บรรยากาศแบบฟาร์ม เหมาะแก่การพาลูกๆ ของเรามาเรียนรู้ธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง

อย่าลืมติดตามเราสองคนแม่ลูกด้วยน๊าา  "มนุษย์แม่ตัวเท่ามดแต่แรงมากกว่าช้าง"

ปลาทับทิมนึ่งมะนาว Food@Home by พ่อครัวน้อย

ปลาทับทิมนึ่งมะนาว Food@Home by พ่อครัวน้อย

วันนี้ขอเข้าครัว มาแชร์สูตรเมนูอาหาร ปลาทับทิบนึ่งมะนาวกัน

เนื่องจากแม่บ้านไปช้อปปิ้ง maxvalue ได้ปลาทับทิมตัวใหญ่แพ็คละ 89 บาทเองถูกกว่าที่ตลาดอีก เคยไปซื้อตลาดสดแถวบ้านตัวละ 100 ขึ้น ผักที่บ้านเหลือ ไว้ทานมื้อเย็น ไม่อ้วนด้วยนะเออ ไปดูสูตรกัน

ส่วนผสมปลาทับทิมนึ่งมะนาว

-ปลาทับทิม 1 ตัว

-น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ

-น้ำตาล 1 1/2 ช้อนชา

-ซีอิ๊วขาว ตราเด็กสมบูรณ์ 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำเปล่าต้มแล้ว 1/4 ถ้วยตวง

-กระเทียมหั่นบางสำหรับตกแต่งโรยหน้า

-กระเทียมสำหรับทำน้ำยำ

-พริกขี้หนูสำหรับทำน้ำยำ และโรยหน้า

-มะนาวหั่นบางสำหรับตกแต่งโรยหน้า

-ผักชี

-ผักกาดขาว

วิธีทำปลาทับทิมนึ่งมะนาว

1. ล้างปลาให้สะอาด พอดีปลาที่ซื้อมาเค้าขอดเกล็ด ควักไส้เรียบร้อยแล้ว เอามาล้างอย่างเดียว

2. เอาผักกาดขาววางบนจาน ตามด้วยปลาวางทับบนผักกาดขาว นำไปนึ่ง ในหม้อนึ่งที่น้ำเดือดแล้ว ประมาณ 20 นาที

3. ระหว่างรอปลาเตรียมน้ำยำ ตำกระเทียมพริก แล้วผสมน้ำปลาน้ำตาล น้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำเปล่า คนให้เข้ากันชิมไป ที่บ้านชอบรสจัด ต้องเผ็ดต้องเปรี้ยว 

4. พอปลาสุกยกลงมา จัดจานใหม่ให้สวยงาม วางผักกาดขาวตามด้วยปลา ราดน้ำยำที่ผสมไว้ แล้วโรยพริกขี้หนู กระเทียม มะนาว ผักชี เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับมื้อเย็นวันนี้

หน้าตาแบบนี้ละค่ะ พอได้เนอะ 

<< ที่สำคัญวันนี้ขอแนะนำ พ่อครัวมาช่วยทำน้ำยำด้วย ตำกระเทียมและพริก ปรุงน้ำยำเองด้วยน๊า>>

ภาพประกอบการตำกระเทียม

อันนี้ภาพประกอบการตำพริกขี้หนูจ้าาา ตำๆ อยู่ บอกม๊าขอแว่นตาหน่อย 555

สรุปผลงานพ่อครัวน้อย งานดีใช้ได้เลยคร้า

โอกาสหน้าจะมานำเสนอเมนูของพ่อครัวน้อยอีกนะคะ

ฝากติดตามเรื่องราวของมนุษย์แม่ด้วยกันด้วยน๊าา

<<มนุษย์แม่ตัวเท่ามดแต่แรงมากกว่าช้าง>>

สวัสดีปีไก่ แม่จะพาลิงน้อยไปเขาดิน

สวัสดีปีไก่ แม่จะพาลิงน้อยไปเขาดิน

 

สืบเนื่องมาจากช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ปีนี้ ไม่ได้พาลูกไปเที่ยวไหนเลย ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง พ่อหยุด 3 วัน แม่ไม่อยากไปเผชิญรถติด คนเยอะ อยู่บ้านก็ได้เนอะ งั้นเที่ยวในกรุงเทพนี่แหละ ถนนโล่งดี คนน้อย แม่ก็มโนนึกไปจะพาลูกไปไหนดีน๊า ห้างก็เบื่อ (แต่ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี 55) ไปปิ๊งไอเดียเขาดินตอนไปเจอเพื่อนสาวคนสวย เค้าบอกว่าจะพาลูกไปเขาดินไปไหม แม่ก็เลยปิ๊ง ไอเดียบนหัวทันที

งั้นลุยค่ะ ไปเที่ยว เขาดิน หรือ สวนสัตว์ดุสิต นั่นเองงงงงงงง

ขอย้อนวัยละอ่อนของแม่นิสสสนึง (มีภาพปลากรอบบบบ) ในส่วนของแม่นั้นเคยมาเขาดินตอนอนุบาล จำความไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลย ผ่านมา สามสิบกว่าปีแล้ว เป็นคนต่างจังหวัดค่ะ พ่อกับแม่พามาเที่ยว พร้อมด้วยพี่สาวสองคน จำได้แค่นี้ 555

 

อ่ะ มาต่อ พอถึงวัน เราออกจากบ้านเช้า วิ่งมาทางดาวคะนอง วงเวียนใหญ่ ผ่านอุโมงค์ (แยกมไหย์นรก) ที่สร้างมาหลายปี (ตอนผ่านทำไมอุโมงค์มันสั้นจุง ทำไมทำน๊านนนนนาน ความคิดในหัวมันพุ่งขึ้นมาเอง) ถนนโล่งงงง ขับสบาย ไม่ติดเลย มาถึงเขาดิน 9 โมงเช้า อากาศดีมากไม่ร้อน กำลังสบาย ที่จอดรถด้านในโล่งเลย (มาเช้ามันดีอย่างนี้นี่เอง) ค่าจอดรถ 50 บาทส่วนค่าบัตร ตามรูปด้านเลยจ้า

 

 

ไปลุยกันเลย>>>

บรรยากาศโดยรอบ ร่มรื่น สวยงาม ใจกลางกรุงเทพมีที่ให้สูดอากาศดีๆ  เราซื้อตั๋วขึ้นรถรางค่ะ โดยรถรางจะสามารถนั่งไปรอบๆ ลงตามจุดที่รถจอด แล้วสามารถขึ้นขบวนไหนก็ได้ ขึ้นไปได้จุดเดียว นอกนั้นเดิน 555  ทางเราคิดว่าพาลูกเดินสนุกกว่า ขาลากกันไปซิ แต่ลิงน้อยของแม่ไม่บ่นซักคำ สนุกมากกก

 

กิจกรรมในเขาดินก็มีหลากหลาย เราได้ทันดูโชว์แมวน้ำรอบแรก (จะมีโชว์เป็นรอบๆ ค่ะ ) แมวน้ำน่ารักมาก นอกจากนี้ก็จะมีสัตว์ต่างๆ ให้ชมมากมาย เดินไปเรื่อยๆ ทั้งวันยังได้เลย 

 

พอดูสัตว์ทั้งหลายครบถ้วน (มั้ง ไม่ค่อยแน่ใจ 55 แม่เริ่มเวียนหัว เพราะลิงน้อยที่บ้านเดินแบบซ้ายทีขาวที คนแก่ตามไม่ทัน) เราก็มาถึงสิ่งสุดท้ายที่เด็กที่บ้าน want makkkk นั่นคือ เรือจักรยานนาวา นั่นเอง

ซื้อตั๋ว ใส่เสื้อชูชีพเรียบร้อย ได้เวลาขึ้นเรือกัน เค้ามีเวลาให้ 30 นาทีต่อรอบ (แต่จิงๆ แม่แอบบ่นว่าไม่ถึง 30 คะ เพราะกว่าจะได้ขึ้น ก็เหลือแค่ 20 นาทีละ)

นี่คือ สภาพใบหน้าของลิงน้อยเมื่อขึ้นเรือดูเค้า Happy นะก๊ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสเลย 555  ลิงแอบเซ็ง (น่าจะเซ็งมากกกก) เนื่องจากไม่ได้ปั่นเองคร้า เด็กต้องนั่งตรงกลาง 555 

He want มากกก คร้าา ตั้งใจจะมาปั่นเลย

งั้นไหนๆ ก็ไหนๆ ละ แม่ชอบสละชีพเพื่อลูก ให้ลิงน้อยมานั่งตัก แล้วแม่ก็ยกขาขึ้น (ไม่มีภาพประกอบ ด้วยความทุลักทุเล) 555 ยอมใจนาง เป็นแม่ต้องสตรอง เพื่อลูก สุดท้ายลูกอิชั้นก็ได้ปั่นเรือแล้วคร้า ยิ้มแย้มมีความสุขกันไป

 

เสร็จแล้วก็กลับบ้านกัน แวะทำบุญปีใหม่กันก่อนเข้าบ้านสุขกายสบายใจกันไป

ทริปนี้สนุกมากค่ะ เที่ยวแบบใกล้บ้าน แนะนำพาเด็กๆ มาเขาดินกัน เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติกันนะคะ